บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก 2009

marzocchi 66 มีอาการไม่ปกติ

รูปภาพ
หายไปนาน...ไม่ค่อยจะอัพบล็อคซักเท่าไหร่..ก็ไม่ค่อยจะว่าง...แต่จนแล้วจนรอดก็มีเคสมาให้เพื่อน ๆ ชมเป็นกรณีศึกษาอีกจนได้ ไม่ใช่อื่นไกล....เป็นตระกูล marzocchi อีกแล้ว เจ้า 66 ตัวนี้น่าจะเป็นตัวปี 08 ตัวที่ติดรถสุดยอดขายดีอีกตัวของบ้านเรา คงจะนึกกันออกนะ ถ้าไม่ออกบอกให้ก็ได้..ก็..stinky ไงล่ะ....อาการที่เจอคือ รีบาวน์หาย...มีอาการดีด..กึก ๆ ...อาการนี้อีกแล้ว...มาดูกันดีกว่าว่าเกิดอะไรขึ้น จากนั้นก็ถอดดดด...มันออก..เริ่มจากด้านบน รุ่นนี้ต้องใช้ตัวถอดพิเศษที่เราคุ้นกันดี...ก็ตัวถอดเฟืองหลังนั่นเอง จากนั้นก็ถอดด้านล่าง...แนะนำว่าควรใช้บล็อคสถานเดียวเท่านั้นนะครับ..ไม่อย่างนั้น..บาน(หัวน๊อต)แน่นอน สาเหตุ..ก็เดิม ๆ ไม่มีอะไรมากมาย...คือ ตัววาวล์รีบาวน์..หลุดออกมาอย่างที่เห็น... ก็ใส่กลับเข้าที่เดิม....... สาเหตุเบืองต้นที่เกิดอาการแบบนี้...ดูจากระบบและโครงสร้างภายใน..บวกกับการใช้งานซึ่งสอบถามเจ้าของได้ความว่า..ก่อนพังชองปรับคอมเพรสเยอะ...เพราะชอบแข็ง ๆ (เค้าว่างั้น)..... อืม....หลังจากประกอบกลับเข้าที่..ก็เซตให้เบื้องต้นและแนะนำไปว่า...ไม่ควรปรับคอมเพรสมากเกินไป..การปรับคอมเพรสเป็นการปิดทางน้ำ

marzocchi 4x world cup กับอาการที่คุณอาจจะเจอ

รูปภาพ
กำลังหาข้อมูลใหม่ ๆ มีเขียนอยุ่พอดี..หลังจากได้รับโทรศัพท์จากเพื่่อนคนหนึ่ง ซึ่งก่อนหน้านั้นได้คุยกันไว้นานแล้วว่าเค้ามีปัญหาเกียวกับเจ้า 4x world cup 08 ตอนนั้นผมก็บอกว่า ว่างตรงกันเมื่อไหร่ก็ถอดมาทิ้งไว้บ้านผมก็แล้วกัน เวลาผ่านมาเป็นเดือน อยู่ ๆ ก็ได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนคนนี้ บวกกับเป็นวันที่ผมว่างพอดี ก็เลยจบลงตรงที่ ถอดมาเลยเพื่อน เรื่องของเรื่องคือว่า ก่อนหน้านี้ได้คุยกันว่าเพิ่งซื้้อโช๊คตัวนี้มาใหม่ แต่ใช้งานได้ไม่นานก็มีอาการแปลก ๆ คือมีอาการดีด กึก ๆ เหมือน ไม่มีรีบาวด์ ซึ่งโช๊คระดับนี้ไม่ควรเป็น ปรับรีบาวน์หรือเซตอัพยังไงก็ไม่หาย..จริง ๆ กว่าจะมาเจอผมเค้าลองมาหลายหมอแล้ว พอเล่าอาการให้ผมฟัง ผมก็บอกไปว่า สาเหตุอาจเกิดได้ 2 อย่าง คือ น้ำมันใสเกินไป(ไม่น่าเป็นไปได้เพราะเป็นน้ำมันโช๊คที่มาจากโรงงาน) หรือ วาล์วด้านในมีปัญหา(อันนี้เป็นไปได้มากว่า เป็นที่น่าสังเกตุได้ว่าตั้งแต่ปี 08 เป็นต้นมาตั้งแต่ marzicchi ย้ายฐานผลิตมาให้ไต้หวันผลิตให้ ก็มีปัญหาบ่อย แต่ก็ทำให้เราได้ซื้อโช๊คยี่ห้อนี้ถูกลงแถมด้วยน้ำหนักที่เบากว่าตัวที่ผลิตในอิตาลี แต่ก็ต้องยอมรับว่า เนื้องาน ...วย...กว่ามาตราฐานมาก

hammerschmidt ชุดจานแห่งวันพรุ่งนี้(end)

รูปภาพ
กว่าจะได้ออกมาเป็นตัวขาย พัฒนากันมาหลายขั้นตอน การทำงานของมันจะมีเฟืองอยู่ในตัวขาจานเองเลย สังดูจากรูปครับ เมื่อเราออกแรงปั่น ขาจานหมุน ก็จะไปขับเฟืองตัวเล็กให้เคลื่อนที่ เจ้านี่ก็จะหมุนไปขับเฟือง แล้วส่งกำลังผ่านกลไกเฉพาะตัวของ hammer ไปขับเฟืองขับโซ่ของเราอีกที โดยอัตราทดที่ได้ สามารถปรับไปมาได้ 14ฟันเฟือง โดยถ้าเราใส่เฟือ 22 ก็จะได้อัตราทดเป็น 22-36 และถ้าใส่เฟือง24 ก็จะได้เป็น 24-38 อันนี้ตอนซื้อจะได้มาทั้งสองเฟืองเลย ก็เลือกใช้ได้ตามความพอใจกันเลย แล้วสิ่งที่เราได้มากับความไฮเทคของเจ้า hammer ต้องมีการเปรียบเที่ยบกับระบบเดิม ๆ ด้วย อย่างแรกที่นึกถึงก็คือเรื่องของน้ำหนัก ยังไงจักรยานก็ต้องใช้แรงคน น้ำหนักก็เลยเป็นตัวแปรต้น ๆ ในการพิจารณาเลือกอุปกรณ์ซักชิ้น แต่ยังไงก็ขอบอกเลยว่า ถ้าเป็นรถดาวน์ฮิลแท้ ๆ ใส่ใบหน้าจานเดียว บวก เชนไกด์ ยังไงก็เบากว่าเจ้า hammer อยู่ดี เจ้าhammer จึงมองไปที่กลุ่ม free ride และ all mountain ที่นิยมใช้ใบหน้า 2 ใบ ไปได้ทุกที่ จึงมีการเปรียบเทียบกันให้เห็นว่าน้ำหนักต่างกันอย่างไร all mountain hammer allmountain (175กระโหลก 73) ทั้งระบบจะหนัก 1,623 กรัม แถมด้

hammerschmidt ชุดจานแห่งวันพรุ่งนี้(part4)

รูปภาพ
ก็อยู่ในขั้นตอนการออกแบบ...พอร่างจากกระดาษ..ก็เริ่มที่ขั้นต่อการเขียน cad จากนั้นทำตัว mock up ขี้นมา เทียบกับแบบที่ร่างไว้..อืม..ไกล้เคียง เมื่่อทุกอย่างลงตัว...ก็เริ่มผลิตจริงกันได้เลย

hammerschmidt ชุดจานแห่งวันพรุ่งนี้(part3)

รูปภาพ
มีการร่างและออกแบบ ส่วนประกอบต่าง ๆ ในขั้นตอนการออกแบบ เมื่อไปติดอยุ่กับรถ..หน้าตามันจะเป็นอย่างนี้ อีกรูปในขั้นตอนการออกแบบ...โหด..ดุ..

hammerschmidt ชุดจานแห่งวันพรุ่งนี้(part2)

รูปภาพ
กว่าจะมาเป็นhammer schmidt คงไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เรื่องของเรื่องเกิดจากการสังเกตุเห็นช่องว่างระหว่างแฟรมกับขาจาน บวกกับความคิดนอกกรอบที่ไม่ธรรมดาของวิศวะกรsram จึงมีความคิดว่าช่องว่างที่เห็นนี้น่าจะทำอะไรได้บ้าง จากนั้นก็เริ่มตั้งโจทย์ว่าจะต้องทำอะไรที่เป็นนวัฒกรรมใหม่ ๆ ในช่องว่างที่มีให้ ซึ่งจะเป็นอะไรไปไม่ได้เลยนอกจากจะต้องเป็นระบบขับเคลื่อน ที่จะต้องมาแทนสับจาน ที่ยังมีจุดอ่อนอยู่บ้างในเรื่องของการเปลี่ยนการใช้งานจากอีกใบไปสู่อีกใบ เริ่มจากการร่างแบบคร่าว ๆ ว่าเจ้า hammer จะทำงานยังไง ร่างแบ่บส่วนอื่น ๆ อีกรูปสำหรับขั้นตอนในการออกแบบ(ผมว่าสวยกว่าตัวจริงนะ) นี่ก็สวย กว่าจะออกมาให้เราชื้่นชมกัน...(คงไม่ได้ใช้เพราะแพง..) ออกแบบภายในเพื่อให้ใช้กับแกนกระโหลกเดิมได้

hammerschmidt ชุดจานแห่งวันพรุ่งนี้(part1)

รูปภาพ
เปิดตัวมาซักพักใหญ่ ๆ แล้วกับเจ้า truvativ hammerschmidt (ตั้งแต่ปลายปี2008) และแล้วก็ถึงเวลาบรรจุเข้าแคตาล็อก ออกขายกันจริง ๆ จัง ๆ ซะที ซึ่งก็น่าจะวางขายกันมาซักพักแล้วแหละ หลาย ๆ คนคงเคยเห็นหน้าค่าตาของมันมาแล้ว ซึ่งมันเป็นอุปกรณ์แนวคิดใหม่ที่น่าสนใจอีกชิ้นนึง และได้รับการขนานนามว่า "The front derailler of tomorrow" จากนิตยสารชื่อดัง Declin Magazine มาดูส่วนประกอบของมันดีกว่า lineการผลิตได้แบ่งเจ้า hammer ออกเป็นสองรุ่น คือรุ่นสำหรับ all mountain และ สำหรับ freeride ซึืงแน่นอนว่าเจ้ารุ่น freeride ต้องแข็งแรงกว่า แต่ก็ต้องหนักกว่าเป็นธรรมดา ดูส่วนประกอบของมันแล้วน่าปวดหัวจริง ๆ มีมาเยอะเลย ก็ให้มาทั่้งshipter ที่จะต้องใช้เฉพาะรุ่น hammer เท่านั้น กระโหลกที่ดูแปลกตาซึงเอาระบบลูกปืนนอก(ปัจจุบัน)กับลูกปืนใน มาใช้กันคนละข้าง และอื่น ๆ อีกมากมาย สังเกตุดูshipter ต้องมีรูปทั่ง ถึงจะใช้ได้ เห็นแล้วอดคิดไม่ได้ว่าทำไม่ต้องเป็นรูปทั่งด้วย สงสัยจะรุ่นนี้จะหนักเหมือนทั้งหรือเปล่า..ฮาาาา ดูกันต่อกับส่วนประกอบที่น่าปวดหัวจนอธิบายไม่ถูก..ดูกันเอาเองแล้วกันครับ

serviceจุดหมุน ให้คันเก่งกันดีกว่า

รูปภาพ
"ถึงฝนจะตก ถึงฟ้าจะร้อง....."เป็นเพลงที่เหมาะกับช่วงเวลานีิจริง ๆ เลย และแล้วก็เข้าสู่หน้าฝน ช่วงlow season ของชาวdownhill อย่างเรา ๆ แล้ว ไปไหนมาไหนก็เปียกเฉอะแฉะไปหมด เป็นที่รู้กันดีว่าจักรยานสุดloveของเรากลัวน้ำ โดนน้ำทีไรดังเอี๊ยดอ๊าดขึ้นมาทันที หน้าฝนทั้งทีเรามาเสริมสุขภาพให้จักรยานเรากันดีกว่า จักรยานยุกค์นี้ยิ่งถ้าเป็นรถdownhill ของเรา ๆ ท่าน ๆใส่เทคโนโลยีต่าง ๆ เข้าไปในตัวรถ อุปกรณ์ทุกชิ้้นถูกวิจัยและผลิตออกมาอย่างดี มีซิลกันน้ำแทบทุกส่วน แต่ถ้าขี่ตากฝนกันจริง ๆ ก็ดัง..และ..ฝืดได้เหมือนกัน อีกทั้งพวกซิลต่าง ๆ ก็มีอายุการใช้งานเหมือนกัน...ใช้ไปซักพักก็จะออกอาการจารบีหาย หรือซิลกักจารบีไม่อยู่ นาน ๆ ไป จารบีก็รั่วออกมาจากแบริ่ง เมื่อแบริ่งไม่มีจารบีภายใน ก็ทำให้เบ้าสึก และคลอนในที่สุด ว่าไปแล้วถ้าลูกปืนคลอน ยังไงก็ต้องเปลี่ยนสถานเดียว แต่เราก็สามารถservice มันได้เพื่อยึดอายุการใช้งาน ซึงจะใช้งานได้ทนทานขึ้น 2-3 เท่าตัวเลยที่เดียว แต่ก็ต้องลงแรงกันเล็กน้อย... ได้หนูทดลองมาแล้ว...เป็นรถน้อง ๆ แถว ๆ นี้ ประวัติเท่าที่ทราบมาคือตั้งแต่เจ้าของคนแรกเข็นออกมาจากห้าง ไม่เคยแตะต้

จะขี่downhillทั้งที...รู้ก่อน(part3)

รูปภาพ
ก็รู้มาเบื้องต้นแล้วกับการset segที่เหมาะสม ในที่นี้ผมขออนุญาติใช้30% ของseg หลังเป็นหลักนะครับ ปัจจุบันเป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจการการออกแบบ และแนวคิดใหม่ ๆ ของจักรยานdownhill มีมาให้เลื่อกมากมาย ซึ่งในบ้านเรา trend จะมองไ ปที่รถยี่ห้อดังราคาแพง มีอยู่หลายยี่ห้อ ซึ่งบอกได้เลยว่าถ้าไม่มีปัญหาเรื่องเงิน ขอบอกว่าซื้อไปเลยครับ คุ้มค่าแน่นอน แต่ขอให้เลื่อก size ที่เหมาะสมก็แล้วกันนะครับ อันนี้สำคัญมาก เดี๋ยวขี่ไม่ได้จะพาลไปว่ารถไม่ดี ในความเป็นจริงถึงจะอยากได้ยังไงก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะซื้้อมันมาขี่ได้ ดังนั้นเรามาเลื่อกสิ่งที่เหมาะสมกับตัวเราดีกว่า สิ่งที่เราควรคำนึงในการเลือกเฟรมหลัก ๆ ก็ไม่มีอะไรมา ก่อนอื่นเราต้องรุ้ตัวเองก่อน -design ที่ต้องการแบบใหน รุ่นนั้นรุ่นนี้เป็นยังไง อันนี้ผมให้เป็นข้อแรก ๆครับ เพราะถ้าเราไม่ชอบ ถึงรถจะดียังไง เดี๋ยวก็ปล่อย ถ้าไม่ชอบอย่าเพิ่งซื้อครับ -ขี่เพื่ออะไร ถ้าเป็นเพื่่อพักผ่อนเป็นงานอดิเรก แข่งบ้างตามงานต่าง ๆ เน้น meeting มากกว่า ก็ควรเลือกที่ยุบเยอะ ๆ หน่อยครับ จะได้ขี่สบาย ๆ โดยมากก็ซัก8.5 ขึ้นไป กำลังดีเลย หรือต้องการรถที่เร็วที่สุด เน้นการแข่งขันเพื่อคว